วัดในพื้นที่พัทยา ตั้งแต่วัดยังสังวารารามไปจนถึงปราสาทสัจธรรมและวัดเขาดิน พัทยาเป็นแหล่งรวมวัดที่สำคัญมากมายและหลากหลาย วัดญาณสังวราราม หรือที่รู้จักกันในท้องถิ่นว่าวัดญาน อยู่ห่างจากพัทยากลางโดยใช้เวลาเดินทางโดยรถยนต์ 30 นาที ซึ่งสร้างขึ้นครั้งแรกในปี พ.ศ. 2519 แม้ว่าจะค่อนข้างทันสมัย แต่ก็เป็นวัดที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งในพื้นที่พัทยาเนื่องจากอยู่ภายใต้การอุปถัมภ์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ราชา
อาคารและสวนต่างๆ ของวัดญาณสังวรมีเนื้อที่ประมาณ 146 ไร่ วัดนี้อุทิศให้กับสมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร วัดญาณสังวรารามมีพระบรมสารีริกธาตุล้ำค่ามากมาย ว่ากันว่าเป็นของพระพุทธเจ้าและสาวกของพระองค์ ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือรอยพระพุทธบาทจำลอง วัดญาณสังวรารามเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวฟรีไม่กี่แห่งในพัทยา เปิดบริการ 8.00 – 17.00 น. มีบริการอาหารและเครื่องดื่มในสถานที่
อย่าลืมแวะศาลเจ้าบนยอดเขา ไปตามถนนผ่านอาคารวัดและที่พำนักของพระภิกษุสงฆ์ ชิดซ้ายไว้จะถึงที่จอดรถขนาดใหญ่ ทางขวามือเป็นขั้นบันไดสู่ศาลเจ้าบนยอดเขา
ติดกับ วัดญาณสังวราราม วัดจีนของวิหารเซียน สร้างขึ้นโดยชุมชนชาวจีน-ไทยเพื่อเป็นเกียรติแก่รัชกาลที่ 9 วิหารเซียนเปิดโดยกษัตริย์ในพิธียิ่งใหญ่ในปี 2536 รวบรวมวัตถุทางศาสนาและวัฒนธรรมกว่า 10,000 รายการ พร้อมของขวัญกว่า 300 ชิ้นจากรัฐบาลจีน สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ได้แก่ พระพุทธรูปที่ทำด้วยทองคำ หินอ่อน และหยก เทวรูปเทพเจ้าฮินดู และแบบจำลอง ‘นักรบดินเผา’ อันเป็นสัญลักษณ์ของจีน
ขับรถเพียง 15 นาทีจากพัทยากลางก็จะพบกับปราสาทสัจธรรม วัดไม้ขนาดมหึมาริมทะเลที่แหลมราชเวช โครงการส่วนบุคคลสำหรับเจ้าพ่อธุรกิจในท้องถิ่น เล็ก วิริยะพันธุ์ และลูกชายของเขา พุกาม ที่เริ่มต้นจากกองทัพช่างไม้ในปี 2524 ทั้งพ่อและลูกชายถึงแก่กรรมก่อนที่วิสัยทัศน์จะสำเร็จลุล่วง จนถึงวันนี้ บางส่วนของวัดยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง แต่ก็คุ้มกับค่าเข้าชม 500 บาท
เมื่อมาถึง รถม้าจะพาผู้เยี่ยมชมไปที่ Hilltop Café ซึ่งมองเห็นทัศนียภาพอันกว้างไกลของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอ่าวพัทยาเบื้องล่าง โครงสร้างไม้สักอันวิจิตรงดงามนี้สร้างขึ้นเพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างอารยธรรมมนุษย์ ปรัชญา และศาสนา โดยผสมผสานทั้งงานแกะสลักฮินดูและพุทธ
แนะนำ : อุทยานหินล้านปีและฟาร์มจระเข้ พัทยา
Credit : แทงบอลออนไลน์
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *