เมล็ดกาแฟ
sightseeingbusnavi.org Default เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ

เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ

เมล็ดกาแฟ

เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ ถ้าพูดถึงเครื่องดื่มที่หลายๆคนต้องนึกออกเป็นอันดับแรกๆ คงหนีไม่พ้น “กาแฟ” เครื่องดื่มที่มีรสชาติขม แต่หอมอย่างลงตัว แบบไม่น่าเชื่อ เป็นที่ติดอกติดใจของชาวออฟฟิตเป็นอย่างมาก วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักที่มาของเจ้า “เมล็ดกาแฟ” กันค่ะ

เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ
เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ

เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ เชื่อกันว่าการถูกค้นพบของเมล็ดกาแฟครั้งแรก เกิดขึ้นโดยเด็กเลี้ยงแพะชาวอาบิสซีเนีย (ประเทศเอธิโอเปียในปัจจุบัน) ชื่อคาลดี จากการที่คาลดีสังเกตแพะ พบว่าแพะดูกระปรี้กระเปร่าขึ้นเมื่อกินผลไม้สีแดงของต้นไม้ชนิดหนึ่ง ซึ่งก็คือต้นกาแฟนั่นเอง

สายพันธุ์กาแฟ

เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ

ต้นกาแฟอาราบิก้า – ที่บราซิลมีต้นกาแฟมากกว่า 6,000 พันธุ์ แต่พันธุ์หลักๆ ที่ได้รับความนิยมมี 2 พันธุ์ ได้แก่

1.อาราบิก้า (Arabica) ซึ่งเป็นกาแฟแบบดั้งเดิม และมีรสชาติดี

2.โรบัสต้า (Robusta) ซึ่งมีปริมาณกาเฟอีนสูง และไม่สามารถปลูกในที่ที่ปลูกอาราบิก้าได้ (คำว่า robust ในภาษาอังกฤษ แปลว่า ทนทาน)

ด้วยความที่มีความทนทานมากกว่านี้เอง จึงทำให้กาแฟโรบัสต้ามีราคาถูกกว่า แต่ผู้คนนิยมดื่มไม่มากนักเนื่องจากมีรสขมและเปรี้ยว ส่วนโรบัสต้าที่มีคุณภาพดีมักถูกนำไปใช้เป็นส่วนผสมของเอสเพรสโซ่ แบบผสม (เอสเพรสโซ่มีสองแบบใหญ่ๆ คือแบบที่เป็นอาราบิก้าแท้ๆ กับแบบที่ผสมกาแฟชนิดอื่นๆ)

เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ

กาแฟมีวิธีการชงและชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉนั้นเรามาทำความเข้าใจและสั่งกาแฟให้ถูกกันประเภท และความชอบของรสชาติกันค่ะ

เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ

1.เอสเพรสโซ

คือกาแฟที่มีรสแก่และเข้ม ซึ่งวิธีการชงเครื่องดื่มชนิดจะใช้แรงอัดไอน้ำหรือน้ำร้อนผ่านเมล็ดกาแฟคั่วบดละเอียด ที่มาของชื่อ เอสเพรสโซ มาจากคำภาษาอิตาลี “espresso” แปลว่า เร่งด่วน เอสเพรสโซเป็นกาแฟที่นิยมมากที่สุดในแถบประเทศยุโรปโดยเฉพาะประเทศอิตาลีและฝรั่งเศส การสั่งกาแฟ “coffee” ในร้านโดยทั่วไปก็คือสั่งเอสเพรสโซ ด้วยวิธีการชงแบบใช้แรงอัด ทำให้เอสเพรสโซมีรสชาติกาแฟซึ่งเข้มข้นและหนักแน่น ต่างจากกาแฟทั่ว ๆ ไปซึ่งชงแบบผ่านน้ำหยด และเพราะรสชาติเข้มข้นและหนักแน่นอันเป็นเอกลักษณ์นี้เอง ทำให้คอกาแฟดื่มเอสเพรสโซโดยไม่ปรุงด้วยน้ำตาลหรือนม และมักจะเสิร์ฟเป็นชอต เพื่อให้ปริมาณไม่มากจนเกินไป (ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการดื่ม ของแต่ละประเทศนั้นๆ)

2.คาปูชิโน (cappuccino)

เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่คนนิยมรับประทานกันอย่างมาก ซึ่งมีต้นกำเนิดมาจากประเทศอิตาลี คาปูชิโนมีส่วนประกอบหลักคือ เอสเพรสโซ และ นม การชงคาปูชิโนโดยส่วนใหญ่มักมีอัตราส่วนของเอสเพรสโซ 1/3 ส่วน ผสมกับนมสตีม (นมร้อนผ่านไอน้ำ) 1/3 ส่วน และตีนมเป็นโฟมละเอียด 1/3 ส่วนลอยอยู่ด้านบน นอกจากนั้นอาจโรยหน้าด้วยผงซินนามอน หรือ ผงโกโก้เล็กน้อย ในประเทศอิตาลี ผู้คนมักดื่มคาปูชิโนเป็นอาหารเช้า โดยอาจมีขนมปังแผ่นหรือคุกกี้ประกอบ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะว่าวิถีชีวิตของชาวอิตาลีมักไม่ค่อยรับประทานอาหารเช้าแบบเป็นกิจลักษณะ คาปูชิโนและขนมปังเบาๆ จึงเหมาะเป็นอาหารรองท้องสำหรับยามเช้า และด้วยเหตุนี้ทำให้ไม่ดื่มคาปูชิโนในช่วงอื่นของวัน แต่สำหรับต่างประเทศรวมถึงประเทศไทย การดื่มคาปูชิโน ดื่มได้ทุกเวลาโดยไม่ถือว่าเป็นเรื่องแปลก

3.ลาเต้ (Latte)

ลาเต้ในภาษาอิตาลีแปลว่านม ส่วนในประเทศอื่น จะหมายถึง กาแฟลาเต้ หรือเครื่องดื่มกาแฟที่เตรียมด้วยนมร้อน โดยการเทเอสเพรสโซ 1/3 ส่วน และนมร้อนอีก 2/3 ส่วน ลงในถ้วยพร้อมๆ กัน และจะหยอดโฟมนมหนาประมาณ 1 ซม. ทับข้างบน กาแฟลาเต้เริ่มเป็นที่นิยมนอกประเทศอิตาลีในช่วงต้นทศวรรษที่ 1980 ในการชงกาแฟลาเต้ บาริสต้า (หรือผู้ชงกาแฟที่ชำนาญงาน) จะใช้วิธีขยับข้อมือเล็กน้อยขณะที่รินนมและโฟมนมลงบนกาแฟ ทำให้เกิดลวดลายต่าง ๆ เรียกว่า ลาเต้อาร์ต (latte art) หรือศิลปะฟองนมในถ้วยกาแฟนั้นเอง

เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟ

4. มอคค่า (Mocha)

          กาแฟมอคค่า เป็นกาแฟอราบิก้าชนิดหนึ่ง ซึ่งปลูกอยู่บริเวณท่าเรือมอคค่าในประเทศเยเมน กาแฟมอคค่ามีสีและกลิ่นคล้ายชอคโกแลต (แม้ว่าจะไม่มีส่วนประกอบของชอคโกแลตในเมล็ดกาแฟมอคค่าเลยก็ตาม) อันเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้กาแฟมอคค่าเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย นอกจากนี้ มอคค่า ยังหมายถึงเครื่องดื่มกาแฟซึ่งมี เอสเพรสโซ่ และ โกโก้ เป็นส่วนประกอบ เสิร์ฟทั้งแบบร้อนและแบบเย็นใส่น้ำแข็ง แถมยังดื่มง่ายอีกด้วยค่ะ

5.อเมริกาโน
          คือเครื่องดื่มกาแฟชนิดหนึ่ง ซึ่งมีวิธีการชงโดยเติมน้ำร้อนผสมลงไปในเอสเพรสโซ. ทำให้เกิดการเจือจาง ทำให้อเมริกาโนมีความแก่พอ ๆ กับกาแฟธรรมดา แต่มีกลิ่นและรสชาติที่เข้มอันมาจากเอสเพรสโซ อเมริกาโนเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบกาแฟดำ แต่ไม่แก่และหนักถึงขั้นเอสเพรสโซ คอกาแฟส่วนใหญ่นิยมดื่มอเมริกาโนโดยไม่ปรุงด้วยนมหรือน้ำตาล เพื่อดื่มด่ำกับรสชาติกาแฟ แม้ที่มาของชื่อจะหมายถึงกาแฟสไตล์อเมริกา แต่อเมริกาโนก็มิได้เป็นกาแฟที่ชาวอเมริกานิยมดื่ม จนกระทั่งยุครุ่งเรืองของร้านกาแฟแฟรนไชส์อย่าง “สตาร์บัคส์” ในปี พ.ศ. 2533 แต่ถึงกระนั้นอเมริกาโนก็ไม่จัดเป็นกาแฟที่ได้รับความนิยมมากนัก

เมล็ดกาแฟ และความแตกต่างของกาแฟที่เราอธิบายไปในข้างต้น คงจะพอทำให้ผู้อ่านเข้าใจถึงที่มา และความแตกต่างของเจ้า “กาแฟ” ได้ไม่มาก็น้อยนะคะ ขอให้ทุกคนเลือกกาแฟในแบบที่ตัวเองชอบ และสามารถติชมหรอให้ข้อมูลเพิมเติม ติดต่อเรา

ชานมไข่มุก 5 ร้านเด็ดในบางแสน

Related Post