Under the Sun Pattaya Beach Bar ที่เพิ่งเปิดใหม่ บาร์ริมชายหาดในธีมสีแดงสดใส ที่นี่เขาคุมโทนสีแดง ตั้งแต่การออกแบบม้านั่งไปจนถึงชิงช้าไปจนถึงที่นั่ง ทุกที่ที่คุณมองไปทางไหนก็มีแต่สีแดงร้อนแรงที่สุด บรรยากาศร้านอบอวลไปด้วยกลิ่นอายทะเล และถ้ามาตอนเย็นก็จะเห็นวิวพระอาทิตย์ตกดิน บรรยากาศติดทะเลเรียกได้ว่าฟินสุดๆ เหมาะแก่การพักผ่อนเป็นอย่างมาก อาหารและเครื่องดื่มภายในร้านก็มีบริการมากมาย บอกเลยว่าตัวนี้ดีมาก
Under The Sun Pattaya บาร์ริมชายหาดเปิดใหม่ในพัทยา
พัทยาคาเฟ่เพิ่งเปิดใหม่ในปี 2566 มีสไตล์การตกแต่งร้านที่ไม่เหมือนใคร พร้อมลุยกับบรรยากาศร้านริมทะเล พร้อมอาหาร เครื่องดื่ม หรือขนมหลากหลาย และมีมุมที่สามารถถ่ายภาพได้หลากหลาย และตัวร้านยังเป็นการใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์อย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นคาเฟ่ที่ใครมาพัทยาก็ต้องแวะ
จุดเด่นของร้าน ตกแต่งร้าน ออกแบบสไตล์สีแดง สีของท้องฟ้าตัดกับสีของน้ำทะเลทำให้ใครไปที่ร้านก็สามารถเห็นการตกแต่งร้านที่มีสีสันสดใสได้อย่างชัดเจน ร้านก็กว้างขวางที่ทุกคนสามารถนั่งได้ และทางร้านมีมุมถ่ายรูปต่างๆ สิ่งที่ต้องทำ มุมของการหมุน มุมเรขาคณิตที่ทางร้านออกแบบนั้นพิถีพิถันมาก และการสร้างนี้ก็ปลอดภัยมาก ผลิตจากวัสดุคุณภาพสูง น้ำหนักเบา พกพาสะดวก ทนทานต่อแสงแดด แต่ก็ยังแดงอยู่ ร้านอยู่ใกล้ทะเลมาก เดินไปหาดได้ ร้านนี้เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย
บรรยากาศของร้านออกแบบมาให้เหมือน สนามเด็กเล่นสำหรับทุกคนด้วยชิงช้าเล็กๆ ข้างซุ้มประตู และสไลเดอร์ครึ่งวงกลมที่สามารถพลิกกลับด้านให้เด็กๆ เล่น มีสนามหญ้าขนาดใหญ่และภายในร้านก็ค่อนข้างใหญ่และมีพื้นที่มากมาย . เลยมีมุมถ่ายรูปค่อนข้างน้อย ทั้งมุมถ่ายรูปสวย ๆ และที่นั่งแบบโซฟานั่งสบาย ๆ
และภายในและภายนอกร้านก็มีโซนที่นั่งแบบริมทะเล ให้คุณรับลมทะเลได้อย่างเต็มที่ และนั่งบนถนนคุณไม่ต้องกลัวความร้อนเพราะมีร่มอยู่ในร้านแล้ว และตอนกลางคืนขอบอกบรรยากาศโรแมนติกมาก ลานพักผ่อนริมทะเลเย็นสบายมาก และทางร้านมีมุมให้ถ่ายรูปมากมาย จะเป็นโซนชิงช้าที่ใครจะยืนหรือนั่งก็ถ่ายรูปสวยๆได้ แถมยังมีมุมเขียนชื่อร้านเป็นตัวอักษรให้ลุกขึ้นโพสท่าได้เลย และมุมมองของรูปทรงวงกลมตรงกับทุ่งข้าวหูกวางตรงกลางวงกลมพอดีเป๊ะ เราจะแจ้งให้คุณทราบเมื่อเราได้รับรูปภาพ การตัดกันระหว่างสีแดงของร้านกับสีของน้ำทะเลและท้องฟ้านั้นสวยงามมาก
บทความโดย : gclub
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
